วันศุกร์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2560

สุขภาพดีต้องทำตาม

วิธีลดหุ่นด้วยอาหารสุขภาพ

breakfast4health-cleanfood


อาหารที่ดีต่อมนุษย์เรานั้นมีหลายชนิดด้วยกัน การเลือกบริโภคนั้นก็ควรดูให้ดีเสียก่อน เพื่อการรับประทานที่ถูกต้องแล้วไม่ส่งผลกระทบต่อร่างกาย การลดน้ำหนักด้วยอาหารนั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุด การออกกำลังกายเป็นปัจจัยที่ทำให้ร่างกายของคุณได้ความแข็งแรงพร้อมทั้งยังได้เรื่องการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์อีกด้วย ดังนั้นกินอาหารนั้นจะต้องควบคู่ไปกับการออกกำลังกายด้วย เวลาในการเล่นกีฬาเพื่อลดน้ำหนักนั้นจะหลายอย่างด้วยกันอย่างเช่น ผู้หญิง จะเล่นในส่วนของโยคะ ส่วนผู้ชายนั้นจะไปทางฟิสเน็ต ในส่วนของอาหารที่จะช่วยลดน้ำหนักของท่านนั้นมีหลายอย่างด้วยกันเช่น ผัก ผลไม้ อาหารที่ไม่มีไขมัน หรือประเภทของหวานที่ไม่มีน้ำตาล ควรกินในปริมาตรที่ไม่ต้องมาก จะทำให้สามารถรับได้อย่างพอเหมาะ รับรองว่าถ้าสามารถทำได้อย่างที่บอกแล้ว มีตารางเพื่อบอกเวลาไหนควรทานแล้วล่ะก็น้ำหนักจะลดลงอย่างแน่นอน นี้เป็นเพียงวิธีง่ายๆ ในการบริหารการกินของคุณส่วนรายละเอียดที่ต้องกินอะไรนั้นสามารถค้นหาได้ในโลกอินเตอร์เน็ต เพราะเราไม่แนะนำไปมากกว่านี้เพื่อความเป็นกลาง สูตรใครสูตรมันแล้วการกินของแต่ล่ะคนนั้นไม่เหมือนใครคิดว่ากินแบบไหนแล้วทำให้ตัวเองดีขึ้นก็เลือกสิ่งนั้นไปเลยดีที่สุดแล้ว ส่วนของเวลาออกกำลังกายนั้นควรเลือกช่วงเช้า เพราะอากาศในตอนเช้านั้นดีมากกว่าช่วงเวลาอื่นๆ คนที่ไม่มีเวลาในการออกกำลังกายเราแนะนำให้เล่นกีฬาที่ใช้เวลาน้อย การหันมามาเล่นกีฬานั้นล้วนแต่เป็นผลดีต่อตัวท่านเองรวมไปถึงทำให้ร่างกายสดใสผิดพันธุ์ดีขึ้น เปรียบเหมือนกับยาวิเศษที่หาไม่ได้ด้วยเงินเลยซ้ำ

อาหารเช้าผ่านไมโครเวฟ

breakfast4health-microwave

ในยุคปัจจุบันมีสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มขึ้นมากมาย สำหรับการทำอาหารแล้วยิ่งทำให้เกิดความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น อาหารเช้าจึงมีการทำผ่านไมโคเวฟบ่อยครั้งอีกทั้งยังใช้เวลาเพียงไม่นานส่วนใหญ่แล้วจะเป็นอาหารจำพวกไข่ที่ให้คุณค่าทางอาหารสูง เพียงใส่อย่างอื่นเพิ่มเติมลงไปก็ครบถ้วนทั้ง 5 หมู่แล้วหรือจะเป็นอาหารที่หาได้ง่ายอย่างเช่นมาม่า นำมาใส่ไข่ ใส่เนื้อหมู หรือไก่ นำเข้าไมโคเวฟอิ่มอร่อยได้ทันที เพราะอาหารเช้าจำเป็นที่สุดสำหรับวันยิ่งกับเด็กเล็กด้วยแล้วมีความต้องการพัฒนาส่วนต่างๆ ของร่างกาย และเมื่อหากว่าไม่ได้รับประทานอาหารเช้าจะทำให้ร่ายกายนั้นเกิดการขาดน้ำตาลซึ่งเป็นผลเสียอีกทั้งเวลาการรับประทานอาหารที่ทิ้งช่วงห่างกันมานานทำให้ร่ายกายต้องการอาหารเป็นอย่างมาก แต่หากว่าไม่ชอบรับประทานอาหารไทยหรือจะปรับเปลี่ยนเป็นแบบอื่นก็ได้ตามใจชอบ

อาหารเช้าควรเป็นแบบไหน

ไม่ได้มีการจำกัดเรื่องของประเภทอาหารเสียเท่าไหร่แต่ในทางกลับกันแล้วร่ายกายเพิ่งเริ่มต้นการทำงาน หลังจากที่ได้หยุดพักมาตลอดทั้งคืนควรจะเป็นอาหารอ่อนก่อนจะดีกว่ามาก เพราะหารับประทานอาหารที่ย่อยยากเข้าไปแล้วหรือมีรสจัดจะส่งผลต่อระบบการทำงานของกระเพาะที่ต้องทำงานอย่างหนัก อาจทำให้รู้สึกไม่สบายตัว ท้องอืดท้องเฟ้อ หลังจากมื้อเช้าแล้วก็สามารถที่จะเลือกรับประทานอาหารอะไรก็ได้ตามสะดวกเนื่องจากร่ายกายตื่นตัวเต็มที่แล้วพร้อมที่เผาผลาญและใช้พลังงานทั้งหมดที่มี การรับประทานอาหารเช้ายังมีส่วนในการป้องกันการเกิดโรคต่างๆ ได้อีกมากมาย แต่หากจนแล้วจนรอดไม่มีเวลาจริงสิ่งที่ทดแทนได้อาจจะไม่ถึงกับดีที่สุดคือซีเรียลกับนมและไข่อีกสักใบเท่านี้ก็ทนแทนได้ในระดับหนึ่งแล้ว หรือจะเป็นผลไม้ก็จะเป็นกล้วยน้ำว้าที่มีวิตามินสูงเพิ่มเติมได้เช่นกัน

ทานอาหารอย่างไรให้สุขภาพแข็งแรง

healt-frut

อาหารเพื่อสุขภาพในปัจจุบันนี้มีเยอะมากแต่ขึ้นอยู่กับเราว่าจะเลือกทานอาหารแบบไหนเพราะอาหารเพื่อสุขภาพนั้นมีหลายประเภทไม่ว่าจะเป็นผักหรือผลไม้ก็จะช่วยในเรื่องสุขภาพที่ต่างกันออกไปเพราะประโยชน์ของอาหารนั้นมีหลากหลายและอาหารเหล่านี้ยังสามารถช่วยเยียวยาโรคร้ายได้หลายโรคมากหรืออาจจะหายขาดจากโรคนั้นเลยก็ได้ หลายๆ ท่านจึงได้หันมารับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพกันเป็นจำนวนมากแต่ส่วนใหญ่แล้วจะมีอายุสูงกันแล้วเพราะวัยรุ่นสมัยนี้มักจะชอบทานอะไรที่ทำร้ายร่างกายตนเองแต่ผมก็ยังเชื่อว่าในกลุ่มเล็กๆ ของวัยรุ่นอาจจะมีบางคนที่เอาใส่ใจกับสุขภาพของตนเองและได้ทานอาหารที่ดีต่อร่างกายเป็นประจำแต่หาได้น้อยมากจริงๆ เพราะอาหารเหล่านี้มักจะมีรสชาติที่ไม่ถูกปากสำหรับใครก็ไม่เคยทานก็จะคิดว่าไม่อร่อย คนส่วนใหญ่มักจะเลือกกินแต่อาหารที่มีรสชาติดีจนลืมว่าส่วนผสมของอาหารเหล่านี้มีอะไรที่ทำร้ายร่างกายบ้างเพราะแรกๆ อาจจะยังไม่เห็นผลแต่ถ้ากินมากๆ ก็จะสะสมสิ่งที่ตามาคือโรคซ้อนมากมายที่เกิดจากสารตกค้างของอาหารที่ทานเข้าไปอย่างเช่นถ้าคุณกินอาหารที่มีน้ำมันมากๆ จะเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งได้คนที่รักษาสุขภาพอยู่เป็นประจำส่วนใหญ่แล้วจะไม่ทานของที่มีน้ำมัน เมื่อรู้อย่างนี้แล้วหันมารับฟังเรื่องเหล่านี้กันเถอะครับแล้วสุขภาพของคุณจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจนการที่จะทานอาหารให้มีสุขภาพที่แข็งแรงต้องเลือกทานแต่อาหารที่มีประโยชน์ไม่ควรกินอาหารที่ไร้สาระเพราะจะทำให้อ้วนเปล่าๆ ท่านควรทานอาหารให้ครบ 5 หมู่และหลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพสามารถศึกษาเพิ่มเติมใน Google ได้เลยเพียงเท่านี้ก็จะมีร่างกายที่แข็งแรงและน่าตาที่สดใส

สูตรอาหารเพื่อสุขภาพที่เหมาะกับคุณ

food-healt

อาหารเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากในการเจริญเติบโตของมนุษย์ การจะหาสิ่งที่จะดีต่อร่างกายนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลย เพราะของเหล่านี้อยู่รอบตัวเราการกินที่ควรพอเหมาะไม่มากและน้อยเกินไปเป็นการจัดการที่ดูจะยุ่งยาก และไม่เหมาะสมเท่าที่ควรดังนั้นการเลือกสารอาหารจึงน่าจะสำคัญมากกว่าจำนวน ผัก คำเดียวแต่ความหมายและประโยชน์มีมากมายมหาศาลต่อร่างกายคนเรามีความต้องการของสารอาหารไม่เท่ากัน บางคนไม่ชอบรับประทานผัก แต่ชอบกินเนื้อสัตว์ การคัดเลือกอาหารที่จะกินจึงไม่สามารถทำได้อย่างเต็มที่ การตั้งใจกินอย่างจริงจังเป็นสิ่งที่ควรทำก่อนที่จะเริ่มสู่โหมดดูแลตัวเองอย่างแท้จริง ผักปลอดสารพิษเป็นอันดับแรกที่ควรเลือกรับประทานเป็นอย่างมาก เพราะด้วยการปลูกที่ไม่ได้ใช้สารเคมีเลยทำให้คุณค่าทางอาหารนั้นดีมาก และไม่มีสารพิษตกค้างอีกด้วย ผู้บริโภคควรดูให้ดีก่อนจะชื้อมารับประทานกัน การกินอาหารให้ครบ 5 หมู่นั้นก็เป็นส่วนที่จะขาดไม่ได้แล้วยิ่งทำได้แล้วร่างกายจะแข็งแรงอย่างเห็นผลมาก แต่นั้นก็ต้องบอกว่าเป็นสิ่งที่คนสมัยนี้ไม่ได้สนใจทำกันเท่าที่ควร เพราะมันต้องมานั่งคิดว่าจะทำอย่างไรให้ได้สารอาหารครบถ้วนนั้นไม่ควรเลยสำหรับคนที่ไม่มีเวลาในการจัดเวลากิน ควรรับประทานให้ได้ใกล้เคียงที่สุดดูจะดีแล้วสำหรับใครที่ยังไม่พร้อม ตามหลักแล้วการหาสิ่งดีๆ เข้าหาตัวนั้นคือการใช้ชีวิตอย่างถูกต้อง การบริโภคผักก็เช่นเดียวกัน ถ้าคุณเริ่มทำตั้งแต่ตอนนี้ยังไม่สายเพื่อทำให้ร่างกายอยู่กับคุณไปนานๆ ข้อดีของการกินอาหารที่ไม่มีสารพิษนั้นมีหลายอย่างเช่น ลดต้นทุนในการใช้สารเคมี ไม่เป็นภัยต่อสภาพแวดล้อม เพราะฉะนั้นการกินอาหารที่ไม่มีสารเคมีเหล่านี้คือสูตรสำเร็จที่ควรทำอย่างยิ่งเพื่อตัวของท่านเอง

ทานอาหารครบ 5 หมู่ทำให้ร่างกายสดชื่น

breakfast4health-Eat 5 groups

ในปัจจุบันนี้ผู้คนมักจะสนใจการดูแลเอาใจใส่กับร่างกายของตนเองน้อยลงเพราะไม่คิดอะไร แต่คุณรู้หรือไม่ว่าการที่คุณกินตามใจปากทำให้ร่างกายของคุณเสียหายมากแค่ไหน เพราะส่วนผสมทุกอย่างมีผลต่อร่างกายของมนุษย์อาจจะทำให้ป่วยง่ายและร่างกายอ่อนแอถ้าไม่เอาใจใส่กับสุขภาพของตนเอง การรับประทานอาหารจึงสำคัญต่อร่างกายอย่างมากคุณรู้หรือไม่ว่าการที่ทานอาหารที่มีประโยชน์และทานให้ครบ 5 หมู่จะสร้างเสริมให้ร่างกายแข็งแรงมากขึ้นหลายเท่า ถ้าไม่เชื่อลองหาดูตามอินเตอร์เน็ตทั่วไปได้เลยว่าการที่ทานอาหารตามปากกับเลือกทานแต่อาหารที่มีประโยชน์แตกต่างกันแค่ไหน คุณรู้หรือไม่ว่าอะไรมีประโยชน์มากที่สุดผักยังไงละครับ แต่ละชนิดก็จะให้ประโยชน์ที่ต่างกันออกไปแต่ถ้าคนที่ชอบกินผักอยู่ประจำคุณจะเห็นเค้ามีสุขภาพที่ดีแล้วน่าตาสดใสอยู่ตลอดเวลาถ้าท่านอยากมีสุขภาพที่ดีและน่าตาที่สดใสไม่ยากเลยศึกษาได้ง่ายๆ ครับผ่านอินเตอร์เน็ต search หาเกี่ยวกับอาหารที่มีประโยชน์และอาหารทั้ง 5 หมู่ว่ามีอะไรบ้างควรรับประทานอย่างไรมื้อเช้าทานอะไรและมื้อต่อๆ มาควรจะทานอะไร การดูแลสุขภาพนั้นสำคัญอย่างมากยิ่งเป็นผู้สูงอายุด้วย ควรต้องดูแลสุขภาพอย่างดีเพราะคนที่อายุมากๆ แล้วมักจะมีโรคซ้อนเข้ามาแต่ถ้าคุณเลือกกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพรับรองได้ว่าโรคเหล่านี้ไม่เกิดขึ้นแน่นอน อาหารเพื่อสุขภาพในปัจจุบันนี้มีมากมายหาทานได้ง่ายแม้แต่ร้านขายอาหารแต่สุขภาพยังมีเลย ถ้าเป็นแต่ก่อนหาทานได้ยากมากเรื่องดูแลสุขภาพนั้นเลยเป็นเรื่องง่ายซึ่งขึ้นอยู่กับตัวท่านเองว่าจะใส่ใจกับสุขภาพตัวเองมากแค่ไหน เพราะอาหารเพื่อสุขภาพมักจะมีรสชาติที่จืดๆ ไม่อร่อยเหมือนอาหารทั่วไปมาใส่ใจสุขภาพกันเถอะครับร่างกายจะดีได้ขึ้นน่าตาจะได้สดใสไร้โรคต่างๆ

อาหารคลีนทานได้ทุกเช้า

อาหารคลีนเพื่อสุขภาพ-breakfast4health

การรับประทานอาหารเช้าใครคิดว่าไม่สำคัญนั้นคิดผิดแล้ว เพราะความเป็นจริงแล้วเป็นมื้อที่สำคัญที่สุดในวันนั้น สำหรับอาหารที่จะแนะนำเป็นอาหารคลีนก็ดีต่อสุขภาพเช่นกัน เพราะอาหารคลีนเป็นอาหารที่มักจะใช้ส่วนผสมที่เป็นธรรมชาติและใช้ขั้นตอนการทำน้อยที่สุด ใช้วัสดุที่มากจากธรรมชาติเป็นส่วนใหญ่ไม่ผ่านกระบวนการที่เป็นอันตราย ทำรับประทานได้ง่ายอย่างช่วงเช้านั้นก็อาจจะเป็นข้าวต้มที่มีทั้งเนื้อสัตว์ ผักที่มีคุณค่าเช่นข้าวต้มหมูใส่ฟักทองซึ่งจะเห็นได้ว่ามีทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต วิตามินต่างๆ จากฟักทอง เพียงเท่านี้ก็เป็นอาหารเช้าที่มีประโยชน์อีกทั้งร่างกายยังไม่ต้องทำงานหนักเกินไปอีกด้วยเพราะเป็นอาหารอ่อน บางครั้งการรับประทานอาหารคลีนจากนอกบ้านอาจจะหายากไปสักนิด แต่ในปัจจุบันเริ่มมีร้านอาหารที่เปิดให้บริการในรูปแบบนี้เยอะขึ้นเนื่องด้วยมีการหันมาใส่ใจด้านสุขภาพกันมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน ทั้งทำรับประทานเองก็ง่าย สะดวกในการทำเพราะใช้เครื่องปรุงที่ไม่ยุ่งยากจนเกินไปใส่ได้ก็ใส่ไม่ใส่ก็ได้ประมานนั้น อาหารคลีนนั้นไม่ได้จำกัดเฉพาะอาหารและผักเท่านั้นยังรวมถึงสิ่งอื่นๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย จากที่ได้เห็นมาส่วนมากก็จะมีหน้าตาที่น่ารับประทานทีเดียวไม่แพ้อาหารตามร้านอาหารทั่วไป เมนูก็ขึ้นอยู่กับเราว่าต้องการจะทำอาหารประเภทไหนหรือดัดแปลงได้เองตามใจชอบ สิ่งสำคัญที่จะต้องให้ความใส่ใจเป็นพิเศษคือทานอาหารให้ครบทุกหมู่ อาหารต้องสดใหม่เสมอ ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อวัน บางครั้งอาหารคลีนนั้นก็อาจจะทำให้ท่านมีน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นได้ เพราะไม่มีการจำกัดแป้งให้ควรงดน้ำตาลแทน แต่สิ่งสุดท้ายที่ได้กลับคืนไปคือสุขภาพของตัวท่านเองหากอยากรู้ว่าอาหารคลีนทำง่ายแค่ไหนมีอะไรน่ารับประทานบ้างลองติดตามกันดูได้ที่เว็บไซต์นี้
การทานอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีของคนไทย

การดูแลสุขภาพเพื่อให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงนั้น การรู้จักเลือกรับประทานอาหาร ถือเป็นสิ่งสำคัญโภชนบัญญัติ 9 ประการ เป็นข้อบัญญัติที่กระทรวงสาธารณสุขจัดทำขึ้นเพื่อแนะนำประชาชนให้มีความรู้ และความเข้าใจในการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพที่ดี ซึ่งประกอบด้


1. กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ แต่ละหมู่ให้หลากหลาย และหมั่นดูแลน้ำหนักตัว เพื่อให้ได้สารอาหารที่ร่างกาย ต้องการ อย่างครบถ้วน และมีน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ไม่อ้วน หรือผอมไป
 
 
 
 
 



2. กินข้าวเป็นหลักสลับกับอาหารประเภทแป้งเป็นบางมื้อ เลือกกินข้าวกล้องแทนข้าวขาว จะได้คุณค่าและใยอาหารมากกว่า



3. กินพืชผักให้มากและกินผลไม้เป็นประจำ กินผักผลไม้ทุกมื้อ จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันโรค และต้านมะเร็งได้



4. กินปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ไข่และถั่วเมล็ดแห้งเป็นประจำ ปลาเป็นโปรตีนคุณภาพดีและย่อยง่าย
ไข่เป็นอาหารที่หาง่าย ถั่วเมล็ดแห้งเป็นโปรตีนจากพืชที่ใช้กินแทนเนื้อสัตว์ได้



5. ดื่มนมให้เหมาะสมตามวัย นมช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง เด็กควรดื่มนมวันละ 2 – 3 แก้ว ผู้ใหญ่ควรดื่มนมพร่องมันเนย วันละ 1 – 2 แก้ว


6. กินอาหารที่มีไขมันแต่พอควร กินอาหารประเภททอด ผัด และแกงกะทิ แต่พอควร เลือกกินอาหารประเภทต้ม นึ่ง ย่าง (ที่ไม่ไหม้เกรียม) แกงไม่ใส่กะทิ เป็นประจำ


7. หลีกเลี่ยงการกินอาหารรสหวานจัด และเค็มจัด กินหวานมากเสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และหลอดเลือด กินเค็มมากเสี่ยงต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูง


8. กินอาหารที่สะอาด ปราศจากการปนเปื้อน อาหารที่ไม่สุกและปนเปื้อนเชื้อโรค และสารเคมี เช่น สารบอแรกซ์ สารกันรา สารฟอกขาว ฟอร์มาลีน และยาฆ่าแมลง ทำให้เกิดโรคได้



9. งดหรือลดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพราะทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิด โรคความดันโลหิตสูง โรคตับแข็ง โรคมะเร็งหลอดอาหาร และโรคร้ายอีกมากมาย
 

อาหารปลอดภัย มีอะไรบ้าง

เครื่องหมายมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม
สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม เป็นองค์กรที่ให้การรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ว่ามีคุณภาพได้มารฐานตามที่กำหนดมีความปลอดภัยในการอุปโภค บริโภค มีประสิทธิภาพในการใช้งาน และมีคุณภาพสมราคา ปัจจุบัน สมอ. รับรองรับรองเครื่องหมายไว้ 3 ประเภทคือ
1. เครื่องหมายมาตรฐานทั่วไป สำหรับผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภค ผู้ผลิตสามารถยื่นขอการรับรองด้วยความสมัครใจเพื่อพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้เป็นไปตามเกณฑ์กำหนดมาตรฐาน
2. เครื่องหมายมาตรฐานบังคับ เป็นเครื่องหมายผลิตภัณฑ์ที่กฎหมายกำหนดให้ผู้ผลิตต้องทำตามมาตรฐาน และต้องแสดงเครื่องหมายผลิตภัณฑ์ เพื่อความปลอดภัยต่อผู้บริโภค
3. เครื่องหมายมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) เป็นเครื่องหมายที่ให้การรับรองผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดยชุมชนเพื่อช่วยพัฒนาและยกระดับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ชุมชน ตามโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ของรัฐบาล

q_mark_green.jpg
เครื่องหมายมาตรฐาน Q
สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นองค์กรที่ให้การรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารที่มีคุณภาพ มีความปลอดภัย และเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ เป็นสัญลักษณ์ที่ใช้สำหรับฟาร์มหรือแหล่งปลูกที่ดำเนินการตาม GAP (Good Agriculture Practices หรือการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีและเหมาะสม) มีมาตรฐาน COC (Code of Conduct หรือข้อกำหนดที่เกียวข้องกับผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม) และ ระบบประกันคุณภาพ GMP (Good Manufacturing Practice หรือหลักเกณฑ์และวิธีการที่ดีในการผลิตอาหาร)

download.jpg
เครื่องหมายอาหารและยา
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
(อย.) เป็นองค์กรที่ให้การรับรองผลิตภัณฑ์สุขภาพ (อาหาร ยา เวชภัณฑ์ และเครื่องสำอาง) โดยผลิตภัณฑ์สุขภาพเหล่านั้นต้องมีคุณภาพมาตรฐานและปลอดภัย โดยหากเป็นผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป เครื่องหมายอาหารและยาจะรับรองผลิตภัณฑ์ที่มีภาชนะปิดบรรจุสนิท
iso_logo.gif
เครื่องหมายมาตรฐานไอเอสโอ
สถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ
(International for Standardization) เป็นองค์กรที่ให้การรับรองมาตรฐานสากลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจและอุตสาหกรรม ในด้านระบบบริหารคุณภาพและระบบบริหารสิ่งแวดล้อม

image007.jpg
เครื่องหมายมาตราฐานอาหารฮาลาล
สถาบันมาตรฐานอาหารฮาลาลคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย เป็นองค์กรที่ให้การรับรอง
มาตรฐานอาหารฮาลาลแห่งชาติ หรือผลิตภัณฑ์อาหารที่ผ่านกรรมวิธีในการทำ ผสม ปรุง ประกอบ หรือแปรสภาพตามศาสนบัญญัติ เพื่อการรับประกันให้ชาวมุสลิมสามารถบริโภคได้อย่างสนิทใจ

ot-logo.jpg
สัญลักษณ์ผลิตภัณฑ์อินทรีย์
กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นองค์กรที่ให้การรับรองเครื่องหมายรับรองมาตรฐานระบบการผลิตทางการเกษตรที่คำนึงถึงการใช้ปัจจัยการผลิตจากสารอินทรีย์ เพื่อรักษาสมดุลของธรรมชาติ รักษาสภาพแวดล้อมและความหลากหลายทางชีวภาพ และหลีกเลี่ยงการใช้สารสังเคราะห์ที่อาจก่อให้เกิดมลพิษในสภาพแวดล้อม
foodsafety(1).jpg
สุขภาพดีเริ่มที่อาหารปลอดภัย (Safe Food Good Health)
กระทรวงสาธารณสุขเป็นองค์กรที่ให้การรับรองเครื่องหมายสุขภาพดีเริ่มที่อาหารปลอดภัย โดยเป็นสัญลักษณ์ให้กับร้านค้า แผงจำหน่ายอาหารสด ตลาดสด และซูเปอร์มาร์เก็ต เพื่อรับรองคุณภาพอาหาร ได้แก่ อาหารสด อาหารแปรรูป อาหารปรุงจำหน่าย พร้อมตรวจสอบสารเคมีปนเปื้อนที่เป็นอันตรายกับสุขภาพ เช่น บอร์แรกซ์ สารพิษตกค้างจากสารเคมี สารฟอกขาว สารเร่งเนื้อแดง เป็นต้น
 
 
 

วันพุธที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2560

วิธีทำให้หลับง่าย

ผมเป็นคนหลับยากมาก แทบจะไปปรึกษาหมอเลยครับว่าเป็นโรคอะไรเกี่ยวกับประสาทหรือเปล่า .. บางวัน นอน 5 ทุ่ม สะดุ้งตื่นมาตี 1 แล้วหลับไม่ลง กว่าจะหลับได้เกือบ 6 โมงเช้า เปป็นแบบนี้มาเป็นเดือนๆแล้วครับ บางทีกะกินเหล้าให้เมาหลับสบายๆ แต่ก็สะดุ้งตื่นมาแบบเก่า ทั้งๆที่เมาอยู่ (โคตรทรมานเลย) แต่ผมมีวิธีใหม่ครับ ลองทำดู ผมเริ่มทำมาได้ สามวันแล้วรู้สึกดีขึ้นครับ ...
ลองมาเช็กดูกันดีกว่าว่าวันนี้คุณมีอาการเข้าใกล้วงจรนอนไม่หลับแค่ไหน...คุณมีอาการแบบนี้หรือเปล่า

• หลับตานานแล้ว แต่สมองยังไม่หยุดคิด
• มักรู้สึกตัวระหว่างนอนหลับเป็นระยะๆ
• ระหว่างหลับรู้สึกว่าสมองยังคิดและกังวล
• ไม่อยากตื่นทั้งที่รู้สึกว่านอนมานานแล้ว
• ความคิดตื้อตันไม่ทันใจ
• ง่วงนอนระหว่างวัน
• รู้สึกซึมเศร้าอย่างไม่มีสาเหตุ
• ปวดหัว และอ่อนเพลียง่าย
• ตื่นด้วยความงัวเงียไม่แจ่มใส แม้จะอาบน้ำและแปรงฟัน
( ผมเป็นอาการแบบนี้เลยครับ )

ใช้ชีวิตเปลี่ยนแนว เพื่อการนอนหลับที่เป็นสุขและหมดทุกข์เรื่องเครียดกังวล กับ 10 คำแนะนำเหล่านี้

1. เข้านอนก่อน 4 ทุ่ม และตื่น 6 โมงเช้า เพราะนี่คือช่วงที่เหมาะสมที่สุดในการพักผ่อนร่างกาย

2. สะสาง วางแผนสิ่งที่กังวลที่จะทำในวันต่อไปให้เรียบร้อยเพื่อลดอาการวิตกจริต และคิดซ้ำซาก

3. บอกกับตัวเองว่าการเครียดกังวล และใช้สมองในช่วงที่ต้องนอนหลับนั้นเปล่าประโยชน์ เนื่องจากสติ สัมปชัญญะ และความอ่อนล้าของร่างกายคืออุปสรรค ดังนั้น นอนหลับให้สนิทแล้วตื่นมาคิดอย่างแจ่มใส ย่อมให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพดีกว่า

4. ถ้าคุณนอนหลับยาก ควรออกกำลังกายในช่วงเย็น หรือ 4-6 ชั่วโมงก่อนนอน แต่อย่าทำใกล้เวลานอน

5. ปรับอุณหภูมิห้องให้เย็นระหว่าง 17-25 องศาเซลเซียส แล้วจะหลับง่ายสบายบอดี้

6. เสริมเครื่องฟอกอากาศในห้องนอนเพื่อเพิ่มปริมาณออกซิเจนที่สมดุล จะนอนหลับลึกได้ต่อเนื่อง

7. ความมืดมิดและไร้เสียง คือเคล็ดลับที่จะทำให้หลับได้สนิทและยาวนาน

8. ดื่มหรือรับประทานอาหารที่มีองค์ประกอบของกรด อะมิโน Tryptophan จากโปรตีน อย่างธัญพืช หรือเครื่องดื่ม Whole Grains ก่อนนอน จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายปล่อยสาร Niacin จากวิตามินบี 5 ทำให้สมองและร่างกายผ่อนคลาย และง่วงนอนง่ายขึ้น

9. สร้างกิจวัตรใหม่ด้วยการเข้านอนและตื่นให้เป็นเวลาเดียวกันทุกวัน ลองทำแค่ 1 อาทิตย์ ติดต่อกัน ร่างกายก็คุ้นเคยแล้ว

10. หลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ และช็อกโกแลตระหว่างวัน เพราะกาเฟอีนที่ผสมอยู่จะทำให้ร่างกายตื่นตัว

สมองคืออาวุธที่จะมีประสิทธิภาพที่สุดเมื่อถูกนำมาใช้ในเวลาที่แจ่มใสที่สุด ดังนั้น ถ้าใครยิ่งต้องการความก้าวหน้า และความเฉียบแหลม จึงยิ่งต้องบริหารอย่างมีประสิทธิภาพ นั่นคือการรู้จัก...ใช้เมื่อพร้อมถึงขีดสุด และหยุดดูแลเมื่อเต็มล้า

                  เรียนยังไงให้ได้เกรดดี

 
อยากเรียนเก่ง ได้เกรด 4 เกรด A แน่นอนว่าส่วนหนึ่งก็ต้องอาศัยการมีวินัย เข้าห้องเรียนอย่างสม่ำเสมอ และหมั่นทบทวนบทเรียนค่ะ แต่เคยสังเกตไหมว่า บางทีเราก็ทำคล้ายเพื่อนแทบทุกอย่าง แต่ทำไมสอบออกมาถึงได้คะแนนน้อยกว่าเขาล่ะ ถ้าอยากได้เกรดดีๆ บ้างเรามีเคล็ดลับมาฝากกันค่ะ
กุญแจแห่งความสำเร็จที่เรานำมาแนะนำมีชื่อว่า ‘การเรียนรู้แบบองค์รวม’ หรือ ‘Holistic Learning’ ซึ่งเป็นสิ่งที่ตรงข้ามกับการท่องจำแบบอัดๆ ข้อมูลเข้าไปในหัวสมอง การเรียนรู้แบบองค์รวมจะช่วยให้เกิดการเชื่อมต่อระหว่างความคิดและข้อมูลต่างๆ ทำให้เราจดจำได้ดีขึ้นในระยะยาว และช่วยเพิ่มทักษะในการคิดวิเคราะห์ด้วยค่ะ

1. แปลงข้อมูลให้เป็นรูปภาพ

สมองคนเราสามารถจดจำภาพได้ดีกว่าข้อความ ดังนั้น การแปลงข้อมูลต่างๆ ให้เป็นรูปภาพ จะทำให้เราสามารถจำได้ดีขึ้นค่ะ รูปภาพในที่นี้รวมถึงแผนภูมิแท่ง แผนภูมิวงกลม แผนที่ความคิดด้วยนะคะ ลองฝึกจดแลคเชอร์โดยมีรูปประกอบดู แล้วจะพบว่ามันจำง่ายกว่าข้อความติดกันเป็นพรืดๆ เยอะ

2. เชื่อมโยงความรู้ใหม่เข้ากับความรู้เก่า

ในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ให้พยายามโยงเข้ากับพื้นความรู้เดิมที่มีอยู่แล้ว จะช่วยให้เราสามารถเข้าใจสิ่งใหม่ที่เรียนรู้ได้ดียิ่งขึ้นค่ะ เช่น คำว่า ‘sue’ ซึ่งแปลว่า ฟ้องร้อง ออกเสียงคล้ายๆ ‘สู้’ ในภาษาไทย เราก็จำแบบเชื่อมโยงว่า sue คือ สู้กันในศาล = ฟ้องร้อง แบบนี้ก็จะช่วยให้จดจำได้ในระยะยาวค่ะ

3. ติวให้เพื่อน

การติวให้คนอื่น นอกจากจะเป็นการทบทวนความรู้ของเราอีกรอบแล้ว ในระหว่างเรียบเรียงเพื่อนำไปอธิบายให้เพื่อนเข้าใจ สมองของเรายังมีการพัฒนาปรับปรุงสิ่งที่เรียนรู้ไป ให้มีการจัดวางอย่างเป็นระบบมากยิ่งขึ้น และทำให้เราเข้าใจความรู้เหล่านั้นลึกซึ้งมากยิ่งขึ้นไปอีก

4. หลีกเลี่ยงการจดโน้ตด้วยข้อความล้วนๆ

เชื่อว่าหลายคนคงเคยหลับคาตำราเรียนเล่มหนาๆ กันมาแล้วไม่มากก็น้อย เพราะตัวหนังสือที่ติดกันยาวๆ อ่านแล้วมันช่างน่าเบื่อสุดๆ ฉะนั้น เวลาที่เราจดโน้ตไว้อ่านทบทวนเอง เราก็ไม่ควรเขียนเฉพาะตัวหนังสือค่ะ ลองวาดภาพ เขียนกราฟ เขียนแผนภูมิแทรกลงไปบ้าง จะช่วยให้สนุกขึ้นเวลากลับมาอ่านทบทวน และทำให้จดจำได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย อ้อ! อย่าลืมแทรกความคิดเห็นที่เรามีต่อเรื่องนั้นๆ ลงไปด้วย เพราะมันจะช่วยกระตุ้นให้สมองเกิดการคิดวิเคราะห์ได้เป็นอย่างดี

5. วางรากฐานให้มั่นคง

เวลาเริ่มต้นเรียนใหม่ๆ ส่วนใหญ่เนื้อหาจะง่ายใช่ไหมคะ แต่พอเรียนไปเรื่อยๆ ยิ่งเรียนก็ยิ่งยากขึ้น และทำให้งุนงงสับสนมากขึ้นเรื่อยๆ บางคนพอไม่เข้าใจจุดหนึ่งก็ปล่อยผ่านไป แล้วข้ามไปอ่านอีกเรื่อง แบบนั้นมักจะยิ่งทำให้งงมากขึ้นค่ะ เพราะเนื้อหาในบทเรียนส่วนใหญ่จะเชื่อมโยงกัน ฉะนั้น ถ้าอยากจะเข้าใจบทเรียนทั้งหมดได้โดยไม่สับสน การค่อยๆ เรียนรู้ไปทีละสเต็ปจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก

6. อ่านบทสรุปก่อนเริ่มเรียน

หากวิชาไหนมีบทสรุป ก่อนจะเริ่มอ่านเนื้อหาหรือเรียนในคาบถัดไป แนะนำว่าให้อ่านบทสรุปไปก่อนล่วงหน้าค่ะ เพราะจะช่วยให้เห็นภาพรวมของเนื้อหาทั้งหมดก่อน และเมื่อย้อนกลับมาไล่อ่านอีกครั้งก็จะทำให้เข้าใจได้ดียิ่งขึ้น

7. ตั้งใจฟังในห้องเรียน

บางคนเวลาเรียนในห้องมักจะชอบก้มหน้าก้มตาจดตามสไลด์ หรือจดตามสิ่งที่อาจารย์สอนแบบทันบ้างไม่ทันบ้าง ซึ่งการจดก็ถือเป็นวิธีช่วยจำที่ดีค่ะ แต่อย่าลืมเผื่อสมาธิไว้ใช้กับการฟังและคิดวิเคราะห์ตามด้วย บางคนจดมาเยอะก็จริง แต่พอกลับมาอ่านทวนกลับไม่เข้าใจซะงั้น เพราะมัวแต่จดแทบไม่ได้ฟังที่อาจารย์สอนเลย บางทีอาจารย์บอกว่าตรงนี้จะออกสอบหรือเน้นย้ำหัวข้อไหนเป็นพิเศษ ถ้าไม่ได้ตั้งใจฟังเราก็อาจจะพลาดได้ค่ะ

8. ฝึกจับประเด็น

การจับประเด็นไม่ใช่แค่การย่อความหรือสรุปความนะคะ แต่เป็นการวิเคราะห์ให้แตกฉานว่าอะไรคือหัวใจหลักของสิ่งที่เขียนอยู่ในหนังสือหรือสิ่งที่อาจารย์พูด ฉะนั้น เวลาอ่านหนังสือจบบทก็อย่าลืมตั้งคำถามกับตัวเองด้วยว่า หัวใจสำคัญหรือประเด็นหลักของบทนี้คืออะไร




วิธีสร้างความสุขให้กับตัวเอง

วิธีสร้างความสุขให้กับตัวเอง

1. รู้จักการมองคนอื่นในแง่ดี มองโลกในแง่ที่สวยงาม เป็นการฝึกตนแบบง่ายๆ อย่างหนึ่ง หลักๆ ก็คือการที่เรามองคนอื่นด้วยสายตาแห่งความสุข ปราศจากการโกรธ เกลียด หรือวาดระแวง แค่นี้ก็จะทำให้ชีวิตของเรานั้นมีความสุขขึ้นมาได้ รวมถึงการฝึกให้ตนเองนั้นมองโลกอย่างง่ายๆ ไม่มองโลกในแง่ที่ร้ายเกินไป
2. ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด หมายถึง การมีชีวิตอยู่กับปัจจุบันอย่างมีความสุข อย่าไปกังวลถึงอดีตหรืออนาคตที่ยังมาไม่ถึง เพราะเราไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ ดังนั้นจึงควรที่จะมีชีวิตในวันนี้อย่างมีความสุข และทำทุกอย่างให้ดีที่สุด แล้วอนาคตที่ดีก็จะมาหาเราเองครับ
3. มีความหวัง แน่นอนว่าความหวังนั้นเป็นสิ่งที่หล่อเลี้ยงจิตใจของมนุษย์ ทำให้เกิดความมุมานะ ความเพียรพยายาม ดังนั้นคนเราจึงจำเป็นต้องมีความหวังอยู่เสมอ แม้ว่าจะมีชีวิตอยู่กับความยากลำบากเพียงใด จงคิดและทำทุกอย่างในวันนี้อย่างเต็มที่ และมีความหวังอยู่เสมอ อนึ่งการมีความหวังอยู่เสมอทำให้ชีวิตนั้นมีความสุขได้เช่นเดียวกัน
4. มองตนเองว่ามีค่า ห้ามคิดว่าชีวิตของเรานั้นไม่มีค่าสำหรับใคร เพราะความจริงแล้วเรานั้นมีค่ากับคนที่รักเราเสมอ ไม่ว่าจะเป็น พ่อแม่ ญาติพี่น้อง หรือเพื่อนสนิท ดังนั้นเมื่อเกิดความรู้สึกไม่ดี เสียใจ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม อย่าไปยึดติดกับมัน ปล่อยให้ผ่านไป และคิดอยู่เสมอว่าชีวิตเรามีค่ามากกว่าที่จะต้องไปจมปลักอยู่กับมัน
5. รู้จักการให้ การให้ในที่นี้ไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งของ หรือของมีค่า แต่หมายถึงของที่ประมาณค่าไม่ได้ เช่นน้ำใจด้วยเช่นกัน การเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่นั้นเป็นวิธีการเสริมสร้างความสุขทางใจอย่างหนึ่ง และให้เราคิดเสมอว่าการให้นั้นมักจะนำสิ่งดีๆ มาสู่ทั้งผู้ให้และผู้รับ แค่นี้เราก็จะมีความสุขแล้วครับ
จะเห็นความสุขเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความรู้สึกนึกคิดล้วนๆ และกระบวนการเสริมสร้างความสุขนั้นไม่จำเป็นต้องมีปัจจัยอะไรมาเกี่ยวข้องให้วุ่นวาย เพียงแค่เราคิดดี ทำดี มีชีวิตอยู่กับปัจจุบันให้ดี และมีความหวัง มีกำลังใจอยู่เสมอ เท่านี้ชีวิตของเราก็จะไม่ห่างไกลจากคำว่าความสุขแล้วครับ

วิธีทําให้ขาเล็ก


วิธีทําให้ขาเล็ก กับเทคนิคง่าย ๆ ที่จะช่วยเปลี่ยนขาอวบตันให้เรียวสวยได้อย่างรวดเร็วทันใจ สำหรับสาว ๆ คนไหนที่ไม่อยากมีต้นขาใหญ่ ๆ ลองมาทำกันดูเลยจ้า

ต้นขาเรียวเล็ก ถือเป็นขาในอุดมคติของสาว ๆ ทุกคน แต่ทว่าในความเป็นจริงแล้วสาว ๆ ส่วนใหญ่นั้นมักจะมีต้นขาที่ใหญ่เกินหน้าเกินตา จะใส่กางเกงขาสั้น หรือกางเกงรัดรูปอวดเรียวขาก็ต้องคิดแล้วคิดอีก เพราะถ้าหากใส่ออกมาแล้วดูใหญ่ ๆ ตัน ๆ จนน่าเกลียด ก็อาจทำให้หมดความมั่นใจเอาได้ง่าย ๆ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วปัญหาของการมีต้นขาใหญ่นั้นอาจมาจากความอ้วนที่มีการสะสมไขมันอยู่บริเวณต้นขามากเกินไป หรืออาจเป็นเพราะออกกำลังกายตรงส่วนขามากเกินไปก็สามารถทำให้ขาใหญ่ได้เช่นเดียวกันเนื่องจากมีกล้ามเนื้อที่มากขึ้นนั่นเองค่ะ แต่ไม่ว่าจะเพราะสาเหตุใด กระปุกดอทคอมก็เชื่อว่าสาว ๆ หลายคนคงจะกำลังหนักใจกับรูปร่างที่ไม่เอื้ออำนวยของตัวเองกันอยู่แน่ ๆ ซึ่งไม่ต้องเครียดไปนะคะสาว ๆ เพราะวันนี้เรามีเทคนิคง่าย ๆ ที่จะช่วยให้ต้นขาของคุณเรียวเล็กลงได้มาฝากกัน แถมยังทำได้ง่ายมาก ๆ รับรองว่าสาว ๆ จะมีขาเรียวเล็กลงได้อย่างสมใจอยากแน่นอน

เทคนิคลดต้นขาแบบง่าย ๆ สาว ๆ คนไหนที่อยากมีขาเรียวเล็กมาลองทำกันดูเลยจ้า...


วิธีทําให้ขาเล็ก
ลดต้นขาด้วยการนวด

การนวดขาเป็นประจำ ถือเป็นการนวดต่อมน้ำเหลือง ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้ขาของสาว ๆ มีอาการบวมน้ำได้ ซึ่งเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ต้นขาใหญ่และไม่สวย โดยขั้นตอนการนวดก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรเลยค่ะ สำหรับบ้านใครที่มีอ่างอาบน้ำก็ให้นอนแช่ในน้ำอุ่นแล้วบีบนวดต้นขาเบา ๆ ไล่จากข้อเท้าขึ้นมายังต้นขา เพื่อให้ระบบน้ำเหลืองไหลเวียนได้ดี แต่สำหรับใครที่ไม่มีอ่างอาบน้ำ สามารถใช้วิธีผสมน้ำอุ่นในกะละมังใบใหญ่ ๆ แล้วแช่ขาลงแทนก็ได้ค่ะ โดยให้นวดสักครึ่งชั่วโมง หลังจากขึ้นจากน้ำก็ให้นวดซ้ำอีกรอบสัก 10-20 นาที ทำแบบนี้แค่อาทิตย์เดียวรับรองว่าขาอวบ ๆ จะเล็กลงได้อย่างน่าตกใจ เพราะนอกจากจะช่วยนวดต่อมน้ำเหลืองให้ไหลเวียนได้ดีแล้ว วิธีนี้ยังสามารถสลายไขมันบริเวณต้นขาได้อีกด้วยจ้า


วิธีทําให้ขาเล็ก
ลดต้นขาด้วยการยืดขา

การยืดเส้นที่ขาทุกวันจะช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อและสลายไขมันที่เกาะอยู่บริเวณใต้ผิวหนังได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ เหมาะสำหรับคนที่ชอบนั่งไขว่ห้างบ่อย ๆ หรือเดินเป็นเวลานาน ๆ โดยสามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่นั่งกับพื้น กางขาทั้งสองข้างออกให้กว้างที่สุดเท่าที่จะทำได้ จากนั้นก้มตัวลง เหยียดแขนขวาไปแตะปลายเท้าขวาค้างไว้ 10 วินาทีแล้วยืดตัวขึ้น จากนั้นให้สลับไปทำข้างซ้ายอีก 10 วินาที ทำสลับไปมาหลาย ๆ ครั้ง และให้ทำเป็นประจำอย่างต่อเนื่องจะช่วยสลายเซลลูไลท์และป้องกันอาการขาหมูไปได้ในตัวค่ะ


วิธีทําให้ขาเล็ก
ลดต้นขาด้วยการวิ่งให้ถูกวิธี

การวิ่งอย่างถูกวิธี โดยที่จะไม่ทำให้ต้นขาใหญ่คือ ต้องวิ่งแบบยืดอก ตัวตรง ก้าวเท้าไปข้างหน้า และเอาส้นเท้าลงพื้นก่อนเหมือนกับเดินเพื่อป้องกันการรองรับน้ำหนักที่มากเกินไปของน่องขา โดยให้วิ่งบนพื้นเรียบ ๆ เท่านั้น จะช่วยลดทั้งขนาดกล้ามเนื้อและไขมันส่วนเกินบริเวณน่องได้ แถมยังจะทำให้ขาดูเรียวกระชับมากขึ้นอีกด้วย


วิธีทําให้ขาเล็ก
ลดต้นขาด้วยการบริหารต้นขา

วิธีนี้เป็นวิธีบริหารลดต้นขาแบบฉบับของสาวญี่ปุ่น ซึ่งทำได้ง่ายมาก ๆ เลยค่ะ เพียงแค่นั่งลงบนเก้าอี้ แล้วหาหนังสือสัก 1-2 เล่มมาหนีบไว้ระหว่างขาให้แน่น (อย่าให้หนังสือตกนะคะ) โดยทำค้างไว้เท่าที่คุณสามารถทำได้ ยิ่งนานเท่าไรก็ยิ่งดีค่ะ หากสาว ๆ ทำเป็นประจำทุกวันอย่างต่อเนื่อง รับรองว่าต้นขาของคุณจะเล็กลงอย่างเห็นได้ชัดเลยล่ะค่ะ เห็นไหมคะว่าง่ายแสนง่าย แถมยังสามารถทำไปพร้อม ๆ กับกิจกรรมอื่น ๆ ได้อีกด้วย เช่น นั่งทำงาน นั่งดูโทรทัศน์ นั่งอ่านหนังสือ หรือนั่งเล่น เป็นต้น ซึ่งถือว่าเป็นวิธีบริหารต้นขาที่สาว ๆ ญี่ปุ่นเขาปฏิบัติกันแล้วได้ผลมาก ๆ เลยค่ะ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับเทคนิคแสนง่ายที่จะช่วยเปลี่ยนขาอวบ ๆ ตัน ๆ ให้เรียวสวยที่กระปุกดอทคอมนำเอามาฝากกันในวันนี้ สำหรับสาว ๆ ที่ชื่นชอบวิธีไหนก็จัดกันไปได้เลยค่ะ หรือถ้าอยากให้ขาเล็กลงเร็ว ๆ ก็ทำให้ครบทุกวิธีเลยยิ่งดี รับรองว่าเห็นผลเร็วทันใจ อีกไม่นานสาว ๆ ก็จะสามารถโชว์เรียวขาสวย ๆ ได้แน่นอนจ้า

วิธีทำให้ผมยาวเร็ว

 

                                     วิธีทำให้ผมยาวเร็ว

 
1. การออกกำลังกายให้เส้นผม
- นวดศีรษะ การนวดศีรษะจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตบนศีรษะ และทำให้ระบบเมตาโบลิซึ่ม ทำงานได้อย่างเป็นปกติ และยังจะช่วยทำให้เส้นผมเติบโตเร็วขึ้น การนวดศีรษะอาจทำได้ด้วยตัวเองที่บ้านในขณะสระผม โดยการใช้นิ้วมือกดและนวดไปตามจุดบนศีรษะอย่างเบามือ หรือจะใช้บริการนวดศรีษะตามร้านนวดแผนไทยหรือสปาก็ได้ค่ะ ผ่อนคลายและสบายเป็นอย่างยิ่ง
- ใช้แปรงผมที่มีขนอ่อนนุ่ม แปรงผมอย่างเบา ๆ โดยเลือกใช้หวีซี่ใหญ่ และห่างในการหวีผม และไม่หวีผมในขณะที่ผมยังเปียกอยู่ แต่หวีในช่วงที่ผมแห้งแทน การหวีผมอย่างสม่ำเสมอจะช่วยทำให้เส้นผม แข็งแรง และยาวเร็วขึ้น
- ก้มศีรษะให้เลือดไปเลี้ยงที่ศีรษะค้างไว้สัก 30 วินาที ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมาทำเช่นนี้ทุกวัน เลือดจะไหลเวียนไปเลี้ยงเส้นผมที่ศีรษะ ทำให้เส้นผมแข็งแรงและยาวเร็วขึ้น
2. การหมักผมแบบธรรมชาติ
- สูตรกล้วยหอมผสมน้ำผึ้ง
บดกล้วยหอมผสมกับน้ำผึ้งพอกให้ทั่วทั้งศรีษะทิ้งไว้ 20 นาที แล้วล้างออก
- สูตรดอกอัญชัญ
คั้นดอกอัญชัญสดกับน้ำสะอาดจนได้น้ำอันชัญสีน้ำเงินอมม่วงหมักผมทิ้งไว้ 20 นาที แล้วล้างออกสูตรนี้จะทำให้ผมดูดกดำเงางาม
- สูตรว่านหางจระเข้
เป็นอีกสมุนไพรในบ้านที่นิยมนำมาใช้เพื่อช่วยให้ผมยาวเร็วขึ้น นำว่านหางจระเข้มาปอกเปลือกให้หมดก่อนจะนำมาทาให้ทั่วศีรษะ (ใช้แบบเป็นก้อนหรือจะปั่นให้ละเอียดก็ได้) พักไว้ประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนจะสระผมตามปกติ
- สูตรไข่และน้ำมันมะกอก
นำน้ำมันมะกอกประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะผสมลงในไข่ 2 ฟอง จากนั้นนำไปหมักผมทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง หลังหมักผมก็สระผมตามปกติ วิธีนี้ช่วยให้ผมยาวเร็ว และยังทำให้ผมนุ่มอีกด้วยค่ะ
- สูตรชาเขียว
ชาเขียวเป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติที่ช่วย เร่งผมยาว อย่างได้ผล การใช้แชมพูที่มีส่วนผสมของ ชาเขียวจึงช่วยให้ ผมยาวเร็วขึ้นได้ หรือ ถ้าหากอยากจะได้รับสารอาหารจากชาเขียวโดยตรงแบบไม่ต้องผสมอะไร ให้ใช้น้ำชาเขียวมาชโลมบนเรือนผม หมักทิ้งไว้แล้วล้างออก ทำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง จะเห็นผลค่ะ
- สูตรน้ำมันเมล็ดองุ่น
นำน้ำมันเมล็ดองุ่นชโลมลงไปโดยตรงบน หนังศีรษะ จากนั้นนวดให้ซึมซาบลงไปในหนังศีรษะ ทำก่อนนอน 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ จะช่วยให้ผมยาวได้เร็วขึ้น
- สูตรมะเขือเทศ
นอกจากจะมีสรรพคุณช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นแล้ว มะเขือเทศยัง ช่วยทำให้ผมยาวเร็วขึ้นด้วย ส่วนวิธีการนำมะเขือเทศมาใช้เร่งผมยาวนั้นก็ไม่ยาก เพียงแค่ปั่นมะเขือเทศให้ละเอียด จากนั้นนำมาหมักผมไว้หลังสระแล้วล้างออก ทำเป็นประจำ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำได้ง่ายและให้ผลดีค่ะ
3. การหมักผมด้วยวิตามิน และอาหารผม
ถ้าอยากได้ตัวช่วยให้เห็นผลไวขึ้น ก็ลองเลือกผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ช่วยในการบำรุงผมโดยตรง ได้แก่ วิตามินบี ซี เอฟ ธาตุเหล็ก และสังกะสี
- ใช้ยาสระผมแบบสูตรเร่งผมยาว หรือเซรั่มเร่งผมยาว ซึ่งปัจจุบันนี้มีให้เลือกมากมายหลายยี่ห้อ จะประกอบไปด้วยสารอาหาร และวิตามินต่างๆ ที่ช่วยบำรุงและกระตุ้นให้ผมยาวเร็วขึ้น
- หมักด้วยแฮร์โค้ต
ถ้าเป็นคนผมแห้ง ต้องการให้ผมดูเงางามใช้แฮร์โค้ต 2-3 หยด ชโลมและนวดให้ทั่วศรีษะ แต่ถ้าเป็นคนผมมันไม่ควรทำวิธีนี้
- หมักด้วยน้ำมันลาเวนเดอร์ (สำหรับผม)
หมักผมสัปดาห์ละครั้ง โดยหลังใส่น้ำมันแล้วให้นวดที่ศีรษะเบาๆ ช้าๆ ให้ทั่วเพื่อนกระตุ้นการทำงานและทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย ทิ้งน้ำมันไว้ประมาณ 30 นาที ในแต่ละครั้งก่อนจะสระผมด้วยแชมพู
- หมักด้วยวิตามินอี
สระผมและนวดผมให้เรียบร้อยใช้ผ้าขนหนูค่อย ๆ ซับผมอย่าขยี้ผมเด็ดขาด โดยแสกผมไว้ซัก 5-6 แถว บีบวิตามินอีแบบแคปซูลสำหรับทาหน้านำมาทาตามรอยแสกนวดบำรุงให้ทั่วหนังศรีษะ ผมจะยาวเร็วขึ้น อย่าลืมที่จะทำทรีทเม้นท์สัปดาห์ละครั้ง เพราะจะทำให้มีสุขภาพผมที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน
4. การรับประทานอาหาร
การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
- ไบโอติน หรือวิตามิน H ซึ่งมีมากใน ตับหมู ไตวัว เนื้อวัว ปลาเนื้อขาว น้ำมัน ปลา ข้าวกล้อง ข้าวโพด รำข้าวสาลี ไข่ นม เนย โยเกิร์ต จำพวกผักก็เป็น ดอกกะหล่ำ กะหล่ำปลี เห็ด แครอท เป็นต้น
- เลือกอาหารที่มีโปรตีนสูง
โดยโปรตีนเป็นส่วนประกอบสำคัญอย่างหนึ่งในเส้นผม จะช่วยสร้างเซลล์ผมใหม่ทุกวัน โปรตีนสามารถปกป้องและซ่อมแซมเส้นผม ช่วยลดการหลุดร่วงและการแตกหักของเส้นผม ทำให้เส้นผมแข็งแรง และยาวเร็วขึ้นได้
- กินปลา พืชผักใบเขียว และบลูเบอรี่
ปลา พืชผักใบเขียว และบลูเบอรี่เป็นแหล่งอาหารที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต ฉะนั้นบริเวณใดก็ตามในร่างกายที่มีเลือดไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงได้ดีจะทำให้ ร่างกายบริเวณนั้นแข็งแรง มีชีวิตชีวารวมไปถึงเส้นผมบนศีรษะด้วย
- ดื่มน้ำสะอาด และผักผลไม้สด
ดื่มน้ำสะอาดให้มากๆ รวมถึงการเลือกกินอาหารจากธรรมชาติ (งดอาหารหมักดองหรือผ่านการแปรรูป) และผักผลไม้สดให้มากขึ้น จะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนและระบบต่างๆ ทำงานได้ดีขึ้น
- ทานอาหารที่มีรสจัดมากขึ้น สารแคปไซซินซึ่งเป็นตัวทำให้พริกมีความเผ็ด จะช่วยให้ผมยาวเร็ว เพราะเหมือนเป็นสิ่งหนึ่งที่เป็นปัจจัยช่วยให้มนุษย์เราเจริญเติบโตขึ้น
- นมถั่วเหลือง สารไอโซฟลาโวนในถั่วเหลือง ซึ่งรู้กันดีว่าเป้นสารที่ช่วยให้ในเรื่องความยาวของเส้นผม ฉะนั้นใครไม่ชอบดื่มนมก็หันมาดื่มนมถั่วเหลืองหรือน้ำเต้าหู้ ได้ประโยชน์หลายๆอย่างเลยค่ะ
-วิตามินบี
วิตามินบี ช่วยกระตุ้นหนังศรีษะ สร้างเส้นผมใหม่ บำรุงเส้นผมให้มีสุขภาพดี ประกอบด้วย B1, B2, B3, B5, B6, B9 และ B12 วิตามินบีสามารถบริโภคได้ทั้งในรูปแบบอาหารเสริม และในผัก ผลไม้ อย่างเช่น อโวคาโด เป็นผลไม้ที่มีวิตามิน B5 เยอะมาก
5. การเล็มผม การตัดผมที่เสียออกไปบ้าง หรือการเล็มผมบ่อย ๆ จะช่วยให้ผมยาวเร็วขึ้นได้ เล็มปลายผมเล็กน้อย แต่ทำสม่ำเสมอ อย่างน้อยเดือนละครั้ง เพราะถ้าผมยาวมากสารอาหารอาจไปเลี้ยงเส้นผมไม่ทั่วถึง การเล็มปลายผมจะช่วยป้องกันไม่ให้ผมคุณเสียและแตกปลาย ถือว่าเป็นการกำจัดผมแตกปลายไปในตัว รวมถึงลดอาการผมร่วงและกระตุ้นให้ผมยาวเร็วขึ้นด้วย
6. เลิกเครียด ความเครียดเป็นปัจจัยที่ทำให้ผมยาวช้า เช่นเดียวกับความเจ็บป่วยอื่นๆที่ อาจจะมีผลข้างเคียงที่ทำให้เส้นผมเรายาวช้า ฉะนั้นใครเครียดเป็นประจำ จงหาวิธีผ่อนคลายตัวเองซะค่ะ
7. การต่อผม ถือเป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็วที่สุด เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่ต้องการผมยาวเร็วทันใจ รับรองว่า ได้ยาวสมใจแน่ ๆ การต่อผมสามารถทำได้ที่ร้านทำผมที่มีบริการต่อผม ให้เลือกร้านที่ค่อนข้างมีประสบการณ์ในการต่อผมมาก ๆ เพราะการต่อผม ต้องใช้สารเคมีมากมายในการทำ ซึ่งหากช่างทำผมไม่รู้จริง ก็อาจทำผมสวย ๆ ของเราเสียได้

วีธีทำให้หน้าเรียว

วิธีทำให้หน้าเรียว คนเราเกิดมาก็ใช่ว่าจะมีรูปหน้าที่เรียวสวยกันทุกคน เพราะเราเลือกเกิดไม่ได้ และเชื่อว่าหลายๆ คนคงอยากมีรูปหน้าที่สวยงามกันทุกคนนะค่ะและคงไม่มีใครอยากมีรูปหน้าที่กลมๆ โดยเฉพาะสาวๆที่รักสวยรักงาม ฉะนั้นเราควรหาวิธีการทำให้หน้าเรียวเพื่อที่จะได้มีรูปหน้าที่สวยงามและเรามีเคล็ดลับวิธีการไดเอ็ตอย่างไรให้หน้าเรียว,วิธีการทำให้หน้าเรียวและวิธีนวดหน้าให้เรียวมาฝากสาวๆกันด้วยนะค่ะ

สารบัญ
  1. เคล็ดลับวิธีการไดเอ็ตอย่างไรให้หน้าเรียว
  2. วิธีทำให้หน้าเรียว
  3. วิธีนวดหน้าให้เรียว
  4. คลิปสอนวิธีทำหน้าเรียว

เคล็ดลับวิธีการไดเอ็ตอย่างไรให้หน้าเรียว
สาวๆ หลายคนเวลามีน้ำหนักเพิ่มขึ้นหรือลดลง สิ่งที่สังเกตได้ชัดเจนที่สุดก็คือใบหน้าของเรา ก็เลยทำให้สาวๆ มีความกังวลในเรื่องน้ำหนักเพราะถ้ามีใบหน้าที่บวมก็จะทำให้สาวๆขาดความมั่นใจในตนเองแต่ถ้าหากสาวๆ อยากมีรูปหน้าที่เรียวก็ลองนำเคล็ดลับที่จะมาบอกในวันนี้ไปใช้ดูนะค่ะ


วิธีทำให้หน้าเรียว
1.รับประทานผักผลและผลไม้แทนขนมขบเคี้ยว คุณลองเปลี่ยนพฤติกรรมของคุณที่ชอบทานพวกขนมขบเคี้ยว แล้วลองหันมารับประทานผักและผลไม้แทน การรับประทานผักและผลไม้นอกจากจะได้น้ำและความหวานตามธรรมชาติแล้ว ยังได้เซลลูโลสซึ่งทำให้อยู่ท้องไปจนมื้ออาหารได้ ซึ่งเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยคุณในการลดแป้งในอาหารมื้อนั้นได้อย่างง่ายด้วย และคุณเลิกกังกลไปได้เลยนะค่ะว่าจะได้น้ำตาลจากผักและผลไม้ที่เรารับประทาน เพราะในขนมขบเคี้ยวต่าง ๆ ที่เรารับประทานนั้นมีน้ำตาลมากกว่า และขนมขบเคี้ยวยังมีแคลอรี่มากกว่าอีกด้วย และที่สำคัญไม่เคยได้ยินว่ามีใครอ้วนเพราะการรับประทานผักผลไม้เลย
2. งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ควรที่จะงดเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ทุกประเภท เช่น เบียร์ เหล้า บรั่นดี ไวน์ และอื่นๆ อีกมากมาย เพราะที่เรารู้ๆ กันดีก็คือแอลกอฮอล์เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดการบวมน้ำได้ และอีกอย่างก็คือแอลกอฮอล์มีปริมาณแคลอรี่ที่สุงกว่าเครื่องดื่มทั่วๆ ไปอีกด้วย รู้อย่างนี้แล้วก็ควรงดนะค่ะ เพราะมันไม่ดีต่อสุขภาพ
3. ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร หากคุณเป็นคนที่ดื่มน้ำน้อย เปลี่ยนใหม่เถอะค่ะหันมาจิบน้ำทีละนิดๆ บ่อยๆ อย่างน้อยก็ให้ได้ 2 ลิตรต่อวัน เพราะถ้าหากร่างกายของคนเราที่ได้รับน้ำในปริมาณที่ไม่เพียง ร่างกายก็จะพยายามกักเก็บน้ำเอาไว้ภายในร่างกายให้ได้มากที่สุด และผลที่ตามมาก็คือการบวมน้ำที่เท้า มือ และที่ใบหน้านั่นเอง แต่ถ้าหากดื่มน้ำในปริมาณที่พอดีกับความต้องการของร่างกาย ร่างกายของเราก็จะทำงานได้อย่างปกติ มีการกักเก็บและการระบายน้ำออกมาได้อย่างสมดุล และก็ไม่ต้องกลัวว่าหน้าจะบวม ด้วยอาการบวมน้ำนะค่ะ
4. ออกกำลังกาย หากเราจะลดน้ำหนักใช้วิธีการควบคุมอาหารอย่างเดียวคงไม่พอ เพราะถึงยังไงน้ำหนักจะลดลงมากแค่ไหนแต่ก็จะทำให้ผิวหนังของคุณนั้นเหี่ยว ไม่กระชับเต่งตึง และไม่สดใส เพราะฉะนั้นเราควรออกกำลังควบคู่ไปกับการควบคุมอาหารด้วย ก็จะทำให้เรามีน้ำหนักที่พอดีและร่างกายที่ฟิตเฟิร์มและสดใส
5. ลดอาหารที่มีรสเค็ม เพราะการที่เรารับประทานอาหารที่มีรสเค็มมากเท่าไหร่นั้น ก็ยิ่งจะทำให้เกิดอาการบวมน้ำได้มากเท่านั้น เนื่องจากร่างกายของคนเรานั้นต้องเก็บกักน้ำเอาไว้ เพื่อที่จะขับโซเดียมที่ได้จากความเค็ม เพราะฉะนั้นเราควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสเค็มจัด เช่น อาหารกระป๋องบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ของหมักดอง แฮมและไส้กรอก และมันฝรั่งทอดกรอบ การลดรับประทานอาหารประเภทที่กล่าวมานี้นอกจากจะช่วยในการช่วยลดสาเหตุของการบวมน้ำแล้ว ยังช่วยให้คุณนั้นห่างไกลจากโรคความดันโลหิตสูงได้ด้วยนะค่ะ
6. เสริมแคลเซียมให้ร่างกายมากกว่าที่เคย ร่างกายของคนเรานั้นในหนึ่งวันต้องแคลเซียมไม่ต่ำกว่า 1,000 มิลลิกรัม เพื่อเข้าไปช่วยในกระบวนการทำงานในระบบต่างๆ ของร่างกายและเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ แต่จะได้ปริมาณแคลเซียมตามที่ร่างกายต้องการนั้นจะต้องดื่มนม 3 แก้ว หรือโยเกิร์ต 800 กรัม หรือจากการรับประทานปลาก็ได้และปลากระป๋องเองก็ให้แคลเซียมได้ดีเหมือนกัน
7. ลดปริมาณพลังงานลงวันละ 500 แคลอรี่ การที่เราจะลดน้ำหนักทุกๆ 0.5 กิโลกรัม คุณจะต้องกำจัดพลังงานให้ได้ถึง 3,500 แคลอรี่เลยทีเดียว ฉะนั้นให้ลองเริ่มจากการทำให้ได้วันละ 500 แคลอรี่ ก่อนก็ได้ ซึ่งเป็นวิธีที่สามารถทำได้ง่ายๆ โดยการออกกำลังกายเพื่อเผาผลาญพลังงานไป 250 แคลอรี่ และจากการเดินเร็วประมาณ 30 นาที หรือการออกกำลังกายหนัก 20-25 นาที และกำจัดอีก 250 แคลอรี่จากมื้ออาหารของคุณ โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานของหวานหลังจากมื้ออาหารของคุณ เช่น เปลี่ยนจากการทานเค้กมาเป็นผลไม้อบแห้งแทน เปลียนจากการทานไอศกรีมมาเป็นโยเกิร์ตแช่แข็ง ลองทำกันดูนะค่ะ
8. บริหารกล้ามเนื้อที่หน้า
- ฉีกยิ้มกว้าง ๆ เพื่อให้กล้ามเนื้อตึงตัว แล้วจากนั้นให้พูดคำว่า เอ อู ยาว ๆ
- ต่อไปทำปากจู๋เหมือนอมบ๊วยค้างไว้แล้วนับ 1-5 ในใจ
- อมลมที่แก้มทีละข้างให้ป่อง ให้ทำสลับกันซ้ายขวา
- และสุดท้ายให้ฉีกยิ้มทีละข้างซ้ายและขวา พยายามยกมุมปากขึ้นให้มากเท่าที่คุณจะได้


การทำหน้าเรียว


วิธีทำให้หน้าเรียว

วิธีที่จะนำเสนอต่อไปนี้เป็นการผ่อนคลายส่วนต่างๆ โดยการบริหารกล้ามเนื้อและผิวหน้า ซึ่งจะทำให้หน้าเรียวเล็กลงได้ด้วยการนวดบริเวณใบหน้าเรามารู้จักวิธีการทำให้หน้าเรียวกันเลยค่ะ
- ขั้นตอนแรก ให้ใช้ช้อนที่แช่ในน้ำแข็ง เพราะถ้าเราใช้ช้อนที่เย็นๆ ก็จะทำให้ความร้อนบนใบหน้าของเราคงที่ และจะทำให้ได้ผลแน่นอนเป็น 2 เท่า
- ขั้นตอนที่สอง หลังจากที่เราได้ใช้ครีมทาหน้าที่มีองค์ประกอบนุ่มนวลต่อผิวให้ทั่วใบหน้าแล้ว จากนั้นก็เริ่มขั้นตอนต่อไปได้เลยค่ะ
- ขั้นตอนที่สาม ให้ทาโลชั่นลงไปบนใบหน้า ให้เริ่มทาจากตรงกลาง ไล่ไปทางด้านนอก จากนั้นให้ทาครีมก่อนนวดหน้า ใช้ทาให้ทั่วใบหน้า
- ขั้นตอนที่สี่ ให้นวดหน้าวนไปวนมาทั้งสองข้างเลย นวดแก้มโดยหมุนวนจากข้างในไปข้างนอก
- ขั้นตอนที่ห้า กระตุ้นบริเวณโหนกแก้มทั้ง 4 จุด โดยให้ใช้ปลายช้อนกดตรงจุดทั้ง 4 จุด โดยให้ไล่จากบริเณโหนกแก้มไปจนถึงบริเวณขมับ จะช่วยในการบวมบริเวณแก้ม ให้ทำทั้งสองข้างสลับกัน 3 ครั้ง
- ขั้นตอนที่หก ลากตามเส้นจากปลายคางจนไปถึงขมับ โดยการใช้หลังช้อนลากจากปลายคางไปจนถึงขมับ แล้วให้ใช้มืออีกข้างหนึ่งดึงขมับไปพร้อมๆ กัน ให้ทำสลับกันซ้าย-ขวา 3 ครั้ง
- ขั้นตอนที่เจ็ด ต่อไปให้ลากจากบริเวณด้านล่างโหนกแก้มขึ้นไปบนขมับ ใช้แรงกดช้อนเบาๆ วิธีนี้เป็นการยกกระชับผิวเป็นพิเศษ ทำสลับกัน 3 ครั้ง
- ขั้นตอนที่เจ็ด ให้เอาช้อนนั้นกดบริเวณด้านล่างของขอบตาแล้วลากไปขมับ เนื่องจากบริเวณหางตานั้นเป็นบริเวณที่บอบบางและระคายเคืองได้ง่าย เพราะฉะนั้นเราควรระวังอย่าใช้แรงมากจนเกินไป ให้ทำสลับกันสามครั้ง
- ขั้นตอนที่แปด การนวดหน้าผากก็ใช้ช้อนนวดเหมือนกัน โดยให้เริ่มจากตรงกลางหน้าผากแล้วค่อยๆ กระเถิบลงไปด้านข้าง ให้ลากไปจนถึงไรผม ทำซ้ำกัน 3 ครั้ง


การทำหน้าเรียว

วิธีนวดหน้าให้เรียว
วันนี้จะพาสาวๆ มารู้จักกับวิธีการนวดหน้าด้วยวิธีการง่ายๆ ที่สามารถทำด้วยตัวเองได้ และวิธีนี้จะช่วยให้สาวๆ มีใบหน้าที่เรียวและกระชับขึ้น และอีกอย่างไม่ต้องไปเสียเงินเข้าร้านด้วยนะค่ะ เรามารู้จัวิธีการนวดหน้ากันเลยค่ะ
1. ขั้นตอนแรก ให้เริ่มจากบริเวณหน้าผาก โดยใช้นิ้วกลางและนิ้วนาง โดยเริ่มจากตรงกลางหน้าผากให้นวดวนขึ้นเป็นแนวขดลวด ขึ้นหนักลงเบา โดยนวดจนถึงบริเวณขมับ 6 จังหวะ ทำซ้ำ 3 ครั้ง และนวดครั้งสุดท้ายให้ใช้นิ้วกดจุดที่ขมับ เพื่อเป้นการผ่อนคลาย
2. ขั้นตอนที่สอง การนวดบริเวณรอบดวงตาและยกกระชับริมฝีปาก ให้ใช้นิ้วกลางและนิ้วนางค่อยๆ นวดเบาๆ บริเวณใต้ตา โดยให้เริ่มจากแนวโครงกระดูกของเบ้าตาล่าง โดยวนไปมาเบาๆ ทำซ้ำ 3 ครั้ง จากนั้นให้เริ่มนวดบริเวณใต้โพรงจมูกให้ลูบออกด้านข้างในลักษณะที่ยกผิวขึ้น ลูบไปมา 3 ครั้ง จากนั้นให้เลื่อนนิ้วลงมาบรเวณใต้ริมฝีปากล่างให้ลูบออกตามแนวริมฝีปากในลักษณะที่ยกขึ้น ทำซ้ำ 3 ครั้ง
3. ขั้นตอนที่สาม การยกกระชับกล้ามเนื้อบริเวณมุมปาก ให้ใช้ปลายนิ้วทั้งสองข้างนั้นนวดจากบริเวณกึ่งกลางคางขึ้นไปบิเวณมุมปากในลักษณะที่ยกขึ้น
4. ขั้นตอนที่สี่ ให้ผ่อนคลายความตึงเคลียดบริเวณรอบดวงตา โดยใช้นิ้วกลางและนิ้วนางกดบริเวณหัวตาทั้ง 2 ข้าง โดยกดเบาๆ นับ 1-3 แล้วให้ลูบผ่านเปลือกตาและวนรอบดวงตาแล้วก็กลับมากดที่บริเวณหัวตาทำซ้ำแบบนี้ 3 ครั้ง โดยครั้งสุดท้ายนั้นให้ลูบผ่านเปลือกตาไปกดที่บริเวณขมับ
วิธีทำให้หน้าเรียว คนเราเกิดมาก็ใช่ว่าจะมีรูปหน้าที่เรียวสวยกันทุกคน เพราะเราเลือกเกิดไม่ได้ และเชื่อว่าหลายๆ คนคงอยากมีรูปหน้าที่สวยงามกันทุกคนนะค่ะและคงไม่มีใครอยากมีรูปหน้าที่กลมๆ โดยเฉพาะสาวๆที่รักสวยรักงาม ฉะนั้นเราควรหาวิธีการทำให้หน้าเรียวเพื่อที่จะได้มีรูปหน้าที่สวยงามและเรามีเคล็ดลับวิธีการไดเอ็ตอย่างไรให้หน้าเรียว,วิธีการทำให้หน้าเรียวและวิธีนวดหน้าให้เรียวมาฝากสาวๆกันด้วยนะค่ะ


สุขภาพดีไม่มีขายถ้าอยากได้ต้องทำเอง



                       สุขภาพดีมีเคล็ดลับ
1 สุขอนามัยที่ดี
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐบอกว่า “หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดเพื่อไม่ให้ป่วยและแพร่เชื้อ” คือการล้างมือ จริง ๆ แล้วการเอามือที่เปื้อนเชื้อโรคไปถูจมูกหรือขยี้ตาจะทำให้คนเราติดหวัดหรือเป็นไข้หวัดใหญ่ได้ง่ายที่สุด วิธีป้องกันเชื้อโรคที่ได้ผลคือต้องล้างมือบ่อย ๆ การมีสุขอนามัยที่ดียังช่วยควบคุมโรคร้ายแรงไม่ให้แพร่กระจายไปด้วย เช่น โรคปอดบวมและโรคท้องร่วงซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบมากกว่า 2 ล้านคนต้องตายทุก ๆ ปี แม้แต่โรคอีโบลาที่ร้ายแรงถึงตายก็สามารถลดการแพร่ระบาดได้ด้วยการล้างมือให้เป็นนิสัย
การล้างมือเป็นเรื่องสำคัญมากสามารถปกป้องสุขภาพของคุณและคนรอบข้างได้ คุณควรล้างมือโดยเฉพาะเมื่อทำสิ่งต่าง ๆ ต่อไปนี้:
  • หลังจากเข้าห้องน้ำ
  • หลังจากเปลี่ยนผ้าอ้อมเด็กหรือพาเด็กเข้าห้องน้ำ
  • ก่อนและหลังทำแผล
  • ก่อนและหลังเยี่ยมหรืออยู่กับคนป่วย
  • ก่อนเตรียมอาหาร เสิร์ฟ และกินอาหาร
  • หลังไอ จาม หรือสั่งน้ำมูก
  • หลังแตะต้องสัตว์หรืออุจจาระของมัน
  • หลังเอาขยะไปทิ้ง
อย่าคิดว่าคุณล้างมือดีอยู่แล้วเพราะจากผลงานวิจัยพบว่าผู้คนจำนวนมากเข้าห้องน้ำสาธารณะเสร็จแล้วไม่ได้ล้างมือทันทีหรือล้างมือไม่ถูกวิธี จะล้างมืออย่างไรให้ถูกวิธี?
  • ล้างมือจากน้ำก๊อกด้วยสบู่
  • เอามือถูกันจนเกิดฟอง อย่าลืมทำความสะอาดตรงเล็บ หัวแม่มือ หลังมือ และระหว่างนิ้ว
  • ถูมือไปมาอย่างน้อย 20 วินาที
  • ล้างด้วยน้ำก๊อกจนสะอาด
  • ใช้ผ้าขนหนูที่สะอาดหรือกระดาษทิชชูเช็ดมือให้แห้ง
ขั้นตอนธรรมดา ๆ เหล่านี้สามารถป้องกันไม่ให้ป่วยและช่วยชีวิตผู้คนได้

2 ใช้น้ำที่สะอาดปลอดภัย

ในบางประเทศ เป็นเรื่องธรรมดาที่แต่ละบ้านจะมีน้ำสะอาดใช้อย่างเพียงพอ แต่ไม่ว่าที่ไหน ในโลกก็มีปัญหาเรื่องน้ำปนเปื้อนได้เสมอ เช่น เมื่อเกิดน้ำท่วม พายุใหญ่ ท่อแตก หรือสาเหตุอื่น ๆ ถ้าน้ำไม่ได้มาจากแหล่งที่ปลอดภัยหรือไม่ได้เก็บรักษาอย่างถูกต้อง อาจทำให้เกิดโรคต่าง ๆ เช่น พยาธิ อหิวาตกโรค ท้องร่วง ไทฟอยด์ ตับอักเสบ ทุก ๆ ปี การดื่มน้ำไม่สะอาดเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ผู้คนประมาณ 1,700 ล้านคนเป็นโรคท้องร่วง

มีอีกหลายอย่างที่คุณทำได้เพื่อชะลออาการป่วยหรือป้องกันบางโรคได้
อหิวาตกโรคเป็นโรคที่ติดกันง่ายถ้าดื่มน้ำหรือกินอาหารที่ปนเปื้อนของเสียของผู้ป่วยโรคนี้ มีวิธีอะไรบ้างที่คุณจะป้องกันตัวเองหากเกิดภัยพิบัติหรือสาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้น้ำปนเปื้อน?
  • ทำให้แน่ใจว่าน้ำที่คุณดื่ม รวมถึงน้ำที่ใช้แปรงฟัน ทำน้ำแข็ง ล้างวัตถุดิบและล้างถ้วยจาน หรือทำอาหารต้องมาจากแหล่งที่ปลอดภัย เช่น น้ำประปาที่ผ่านการฆ่าเชื้อหรือน้ำดื่มที่ผลิตจากบริษัทที่เชื่อถือได้
  • ถ้าคิดว่าน้ำจากท่อที่คุณใช้เป็นน้ำที่อาจจะปนเปื้อนก็ให้ต้มน้ำก่อนใช้หรือใช้สารเคมีที่เหมาะสมเพื่อทำให้น้ำสะอาด
  • เมื่อใช้สารเคมี เช่น คลอรีน หรือ ยาเม็ดสำหรับฆ่าเชื้อโรคในน้ำ ให้ทำตามขั้นตอนที่บอกไว้อย่างเคร่งครัด
  • ถ้ามีเงินพอและสามารถหาซื้อเครื่องกรองน้ำได้ก็ควรซื้อเครื่องกรองน้ำที่มีคุณภาพ
  • ถ้าไม่สามารถหาผลิตภัณฑ์ที่ทำให้น้ำสะอาดได้ ให้ใช้น้ำยาฟอกขาว 2 หยดต่อน้ำ 1 ลิตร ผสมเข้าด้วยกัน จากนั้นทิ้งไว้ 30 นาทีก่อนนำน้ำมาใช้
  • เก็บน้ำที่ฆ่าเชื้อแล้วไว้ในภาชนะที่สะอาดและปิดฝาไว้เพื่อไม่ให้ปนเปื้อนซ้ำ
  • ภาชนะที่ใช้ตักน้ำอย่างเช่น ขันหรือกระบวย ต้องทำให้แน่ใจว่าสะอาด
  • ล้างมือให้สะอาดก่อนจับภาชนะใส่น้ำดื่มและไม่จุ่มมือหรือนิ้วลงไปในน้ำ

3 ระวังอาหารที่คุณกิน

ถ้ากินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ก็ไม่มีทางที่จะมีสุขภาพดีได้ คุณต้องกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างพอเหมาะ อาจต้องดูว่าคุณกินอาหารมากขนาดไหนและมีเกลือ ไขมัน น้ำตาลอยู่ในอาหารเท่าไร คุณควรกินผักและผลไม้ให้หลากหลายด้วย เมื่อคุณซื้อขนมปัง ซีเรียล เส้นพาสต้า หรือข้าวการดูส่วนผสมต่าง ๆ บนฉลากอาหารจะช่วยคุณให้เลือกอาหารแบบที่ไม่ผ่านการขัดสีได้ เพราะอาหารที่ไม่ผ่านการขัดสีจะมีสารอาหารและกากใยมากกว่าแบบที่ผ่านการขัดสีแล้ว สำหรับโปรตีน ควรกินเนื้อสัตว์ให้น้อยลง และถ้าเป็นได้ลองหันมากินเนื้อปลาสัก 2 ครั้งต่อสัปดาห์ ในบางประเทศ อาหารประเภทโปรตีนที่มาจากพืชหาได้ไม่ยาก

ถ้าคุณกินน้ำตาลและไขมันมากเกินไปก็อาจเสี่ยงที่จะเป็นโรคอ้วนได้ เพื่อลดความเสี่ยงให้กินน้ำเปล่าแทนน้ำที่มีรสหวาน กินผลไม้แทนขนมหวาน จำกัดการกินอาหารที่มีไขมันอย่างเช่น ไส้กรอก เนื้อ เนย นม เค้ก ชีส และคุกกี้ และเมื่อทำอาหารแทนที่จะใช้น้ำมันที่มีไขมันอิ่มตัวให้เลือกใช้น้ำมันที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
การกินอาหารที่เค็มหรือใส่เกลือมากเกินไปจะทำให้ความดันโลหิตสูงซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพ ถ้าคุณมีปัญหานี้ ให้อ่านข้อมูลบนฉลากอาหารก่อนที่จะกิน และเมื่อปรุงอาหารให้ใช้สมุนไพรและเครื่องเทศแทนเกลือ
ปริมาณ ของอาหารที่กินสำคัญพอ ๆ กับสิ่ง ที่คุณกิน ถึงแม้คุณมีความสุขกับการกิน แต่ก็ควรกินพอประมาณไม่มากเกินไป
อันตรายอีกอย่างหนึ่งเกี่ยวกับอาหารก็คือเชื้อที่ปนเปื้อนอยู่ในอาหาร อาหารอาจเป็นอันตรายได้ถ้าขั้นตอนการเตรียมหรือการเก็บไม่ถูกวิธี ทุก ๆ ปี คนอเมริกัน 1 ใน 6 ป่วยเพราะอาหารเป็นพิษ ส่วนใหญ่แล้วไม่ถึงขั้นร้ายแรงแต่ก็มีบางคนที่ตายด้วย คุณจะทำอะไรได้บ้างเพื่อลดความเสี่ยงในเรื่องนี้?
  • ผักต่าง ๆ ที่ปลูกในดินอาจใช้ปุ๋ยคอก จึงควรล้างผักก่อนที่จะเอามาทำอาหาร
  • ล้างมือ เขียง จาน ภาชนะต่าง ๆ ที่ใช้ในครัว และบริเวณที่ทำอาหารด้วยน้ำร้อนและน้ำยาล้างจานก่อนจะใช้เตรียมอาหาร
  • เพื่อไม่ให้อาหารปนเปื้อน อย่านำอาหารที่ทำเสร็จแล้ววางในจานหรือภาชนะที่ยังไม่ได้ล้างซึ่งใช้ใส่ไข่ดิบ เนื้อสัตว์ หรือปลาก่อนหน้านี้
  • ทำอาหารให้สุกและหากไม่ได้กินอาหารนั้นทันทีให้เก็บอาหารเข้าตู้เย็น
  • ควรทิ้งอาหารที่เสียได้ง่ายหลังจากวางทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องนานกว่า 2 ชั่วโมง หรือถ้าวางในอุณหภูมิเกิน 32 องศาเซลเซียสก็ไม่ควรวางอาหารไว้เกิน 1 ชั่วโมง

4 ออกกำลังกายอยู่เสมอ


เพื่อจะมีรูปร่างดี ไม่ว่าจะอายุเท่าไรคุณต้องออกกำลังกายเป็นประจำ หลายคนในทุกวันนี้ออกกำลังกายไม่เพียงพอ ทำไมการออกกำลังกายจึงสำคัญ? เพราะจะช่วยให้คุณ:
  • หลับสบาย
  • ทำอะไรได้คล่องตัว
  • กระดูกและกล้ามเนื้อแข็งแรง
  • น้ำหนักตัวสมส่วน
  • ลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคซึมเศร้า
  • ลดความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตก่อนวัยอันควร
ถ้าคุณไม่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ คุณมีแนวโน้มที่จะ:
  • เป็นโรคหัวใจ
  • เป็นโรคเบาหวานประเภท 2
  • เป็นโรคความดันโลหิตสูง
  • เป็นโรคเส้นเลือดสมอง
  • คอเลสเตอรอลสูง
การออกกำลังกายในแบบที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับวัยและสุขภาพของคุณ ดังนั้น คงจะเป็นการดีที่จะปรึกษาหมอก่อนเริ่มออกกำลังกายรูปแบบใหม่ ๆ คำแนะนำจากหลายแหล่งบอกว่า เด็กและวัยรุ่นควรออกกำลังกายอย่างหนักและปานกลางไม่ต่ำกว่า 60 นาทีทุกวัน ส่วนผู้ใหญ่ควรออกกำลังกายปานกลาง 150 นาทีหรืออย่างหนัก 75 นาทีต่อสัปดาห์
คุณอาจเลือกกิจกรรมที่สนุก เช่น บาสเกตบอล เทนนิส ฟุตบอล เดินเร็ว ขี่จักรยาน ทำสวน ผ่าฟืน ว่ายน้ำ พายเรือแคนู วิ่ง หรือออกกำลังกายแบบแอโรบิกอื่น ๆ แล้วคุณจะรู้ได้อย่างไรว่าการออกกำลังกายแบบไหนที่เรียกว่าหนักหรือปานกลาง? วิธีง่าย ๆ ก็คือการออกกำลังกายปานกลางจะทำให้คุณได้เหงื่อ ส่วนการออกกำลังกายอย่างหนักจะทำให้คุณเหนื่อยมากจนพูดแทบไม่ออก

5 นอนหลับให้เพียงพอ


แต่ละคนต้องการเวลานอนแตกต่างกัน ตามปกติแล้วเด็กทารกแรกเกิดต้องนอนวันละ 16 ถึง 18 ชั่วโมง เด็กวัยหัดเดินวันละ 14 ชั่วโมง เด็กวัยก่อนเข้าเรียนวันละ 11 หรือ 12 ชั่วโมง เด็กวัยเรียนควรนอนไม่ต่ำกว่าวันละ 10 ชั่วโมง วัยรุ่นประมาณวันละ 9 หรือ 10 ชั่วโมง และผู้ใหญ่วันละ 7 ถึง 8 ชั่วโมง
การพักผ่อนให้เพียงพอไม่ใช่ทางเลือกที่จะทำก็ได้หรือไม่ทำก็ได้ พวกผู้เชี่ยวชาญบอกว่า การนอนหลับให้เพียงพอสำคัญต่อ:
  • การเติบโตและพัฒนาการในเด็กและวัยรุ่น
  • การเรียนรู้และจดจำสิ่งใหม่ ๆ
  • การปรับสมดุลของฮอร์โมนในร่างกายที่มีผลต่อระบบการเผาผลาญและน้ำหนักตัว
  • ระบบหัวใจและหลอดเลือด
  • ระบบภูมิคุ้มกัน
การนอนไม่พอทำให้เกิดโรคอ้วน โรคซึมเศร้า โรคหัวใจ โรคเบาหวาน และอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุที่น่าเศร้าได้ นี่น่าจะเป็นเหตุผลที่ดีที่เราจะต้องนอนหลับให้เพียงพอ
ดังนั้น คุณจะทำอย่างไรถ้านอนหลับไม่เพียงพอ?
  • ลองเข้านอนและตื่นนอนเวลาเดียวกันทุกวัน
  • ห้องนอนต้องเงียบ มืด ผ่อนคลาย และไม่ร้อนหรือหนาวจนเกินไป
  • ไม่ดูทีวีหรือเล่นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขณะอยู่บนเตียง
  • จัดที่นอนให้นอนสบาย
  • หลีกเลี่ยงการกินอาหารมื้อหนัก เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน และแอลกอฮอล์ก่อนเข้านอน
  • ถ้าคุณทำตามคำแนะนำเหล่านี้แล้วยังนอนไม่หลับหรือมีความผิดปกติเรื่องการนอน เช่น ง่วงนอนผิดปกติในตอนกลางวัน หรือหยุดหายใจขณะนอนหลับ คุณอาจต้องปรึกษาหมอที่เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ