วันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2560


                                                  ความหมายของดอกกุหลาบ


"ดอกกุหลาบสีแดง" 
ไม่ว่าจะเป็นดอกกุหลาบ สีแดงอ่อน หรือสีแดงสด บ่งบอกถึงการตกหลุมรักหรือแอบปลื้มใครซักคน เป็นสื่อแทนใจเพื่อจะบอกให้รู้ว่ามีคนกำลัง แอบปลื้มอยู่ ส่วนดอกกุหลาบสีแดงเข้ม ถ้ามีใครให้ดอกกุหลาบสีแดง รู้ไว้เลย นะว่าเค้าคนนั้น มีความรักที่สุดแสน จะลึกซึ้ง  มั่นคง และแน่นนปึก เรียกได้ว่าความรักนั้น ไม่มีวันจืดจางไป จากหัวใจ


"ดอกกุหลาบสีขาว"
เป็นสีแห่งความรักที่ใสสะอาด บริสุทธิ์น่าทนุถนอมโดยไม่คิด เลยว่าความรักที่มอบให้ไปนั้น จะได้ความรักตอบกลับมา
หรือเปล่า 

"ดอกกุหลาบสีชมพู"
เป็นความโรแมนติกที่แสดงถึงความรักที่หวานซึ้งที่ผู้ให้มีต่อผู้รับ แต่ก็อย่าเพิ่งดีใจ เพราะว่ามันไม่ได้เป็นความรักที่ลึกซึ้ง

แค่เป็นเพียงรักที่ฉาบฉวยต้องการเปลี่ยนแปลงเพื่อแสวงหาสิ่งที่คิดว่าดีที่สุดเท่านั้นเอง
"ดอกกุหลาบสีส้ม" 
สื่อให้เห็นถึงความสดใส ความเป็นตัวของตัวเอง ของผู้รับ เมื่ออยู่ใกล้แล้วทำให้รู้สึกอบอุ่น และยัง
บ่งบอกความในใจถึงความรักและสิ่งที่ผ่านมาด้วย

"ดอกกุหลาบสีส้ม" 
สื่อให้เห็นถึงความสดใส ความเป็นตัวของตัวเอง ของผู้รับ เมื่ออยู่ใกล้แล้วทำให้รู้สึกอบอุ่น และยัง
บ่งบอกความในใจถึงความรักและสิ่งที่ผ่านมาด้วย
"ดอกกุหลาบสีเหลือง"
เป็นตัวแทนแห่งมิตรภาพ และยังสื่อถึงความห่วงใยของผู้ให้ด้วย หลายคนเชื่อว่าเป็นดอกไม้ที่ใช้สำหรับเยี่ยมคนป่วย แต่จริงๆแล้วก็สามารถให้กับเพื่อนๆ เนื่องในโอกาสพิเศษได้เช่นกัน

"ดอกกุหลาบสีฟ้า" 
เชื่อว่าเป็นดอกไม้ แห่งความอดทน แข็งแกร่ง ดอกไม้แห่งความฝันที่สวยงาม และมั่นคงตลอดกาล
"ดอกกุหลาบสีม่วง" 
บางคนคงคิดว่ามันเป็นดอกกุหลาบที่สื่อถึงความเศร้า นั่นก็เป็นอีกความหมายนึง แต่ถ้ามองในแง่ของความสุข กุหลาบสีม่วงยังสื่อให้เห็นถึงความสำเร็จในชีวิต การงานได้อีกด้วย


"ดอกกุหลาบสีดำ"
ความหมายของกุหลาบดำ แต่อาจจะลืมไปแล้ว จนมาถึงวันนี้ได้รื้อฟื้นความหมายอีกครั้ง หลายคนคงให้สีดำแทนความเสียใจ โศกเศร้า 
แต่ความหมายของกุหลาบสีดำว่าแท้จริงแล้ว ความหมายที่ลึกล้ำ เจ้ากุหลาบดำ นั่นคือ..นิรันดร์ ดังนั้นดอกกุหลาบดำที่หมายถึงรักนิรันดร์ และมันไม่เคยมีจริง


วันพุธที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2560

เคล็ดลับในการดูแลสุขภาพ



       การจะไปสู่จุดหมายที่คาดหวังไว้นั้น สิ่งสำคัญที่สุด คือ การเริ่มต้นอย่างถูกต้อง และถูกวิธี เพื่อจะนำเราไปสู่เส้นทางที่ตั้งเป้าหมายไว้ เรื่องของสุขภาพก็เช่นเดียวกัน หากต้องการมีสุขภาพดีก็ต้องเริ่มต้นอย่างถูกวิธี  มีเคล็ดลับ 11 ประการเพื่อการดูแลตัวเองให้มีสุขภาพดี
       
       1.คัดสรรสิ่งดีๆ เข้าบ้าน 
       
       เริ่มต้นสุขภาพดีง่ายๆ ด้วยการเลือกซื้ออาหาร ขนม ผลไม้ที่มีประโยชน์กับร่างกายไว้ให้ทุกคนในบ้านได้รับประทานกัน เพราะอย่างน้อยคุณก็จะมั่นใจได้ว่าครอบครัวจะได้รับคุณค่าจากอาหารที่รับประทานในแต่ละมื้อ
       
       2.ดื่มน้ำให้มากขึ้น 
       
       ตามมาด้วยการดื่มน้ำบ่อยๆ ให้ได้วันละ 2 ลิตรเป็นอย่างน้อย (ยกเว้นในรายที่ไตทำงานผิดปกติ) เพื่อหล่อเลี้ยงเซลล์ในร่างกาย ฟื้นฟูระบบขับถ่าย รักษาระดับความเข้มข้นของเลือด จะทำให้สดชื่นตลอดวันเลยทีเดียว
       
       3.กินอาหารให้ครบทุกสิ่ง (ที่ธรรมชาติมี) 
       
       การรับประทานอาหารให้ครบทุกสิ่งที่ธรรมชาติมีนั้น หมายถึง การรับประทานผักผลไม้ต่างๆ ให้หลากสี เป็นต้นว่า สีแดงมะเขือเทศ สีม่วงองุ่น สีเขียวผักคะน้า สีส้มแครอท อย่ายึดติดอยู่กับการรับประทานเฉพาะสิ่งที่ชอบเพียงอย่างเดียว เพราะพืชต่างสีกัน มีสารอาหารต่างชนิดกัน แถมยังเป็นการเพิ่มสีสันการกินให้กับคุณได้อีกด้วย
       
       4.กินอาหารที่มีประโยชน์
       
       ควรเลือกรับประทานปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ไข่ และถั่วเมล็ดแห้งเป็นประจำ ปลาเป็นโปรตีนคุณภาพดี และย่อยง่าย เป็นอาหารที่หาง่ายและเหมาะกับทุกคนในครอบครัว
      
       5.ดื่มนมให้เหมาะสมกับวัย 
       
       การดื่มนม นมช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง เด็กควรดื่มนมวันละ 1-2 แก้ว ผู้ใหญ่ควรดื่มนมพร่องมันเนย วันละ 1-2 แก้ว เพราะนมคือสิ่งที่มีประโยชน์สำหรับทุกเพศทุกวัย
       

       6.เลือกกินให้เป็น
       
       การกินอยู่เพื่อสุขภาพที่ดี ควรรับประทานอาหารที่มีไขมัน และอาหารประเภททอด ผัด หรือแกงกะทิแต่พอควร รวมไปถึงอาหารประเภท ต้ม นึ่ง ย่าง (ที่ไม่ไหม้เกรียม) ด้วย
       
       7.พอประมาณหวานและเค็ม 
       
       หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรสจัด หวานจัด เค็มจัด เนื่องจากการรับประทานอาหารที่มีรสหวานมาก เสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และหลอดเลือด รสเค็มจัดก็เช่นกัน เสี่ยงต่อการเป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคไต เป็นต้น
       
       8.งดเหล้าต่ออายุ
       
       ควรงดหรือลดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพราะทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูง โรคตับแข็ง โรคมะเร็งในหลอดอาหาร และโรคร้ายอีกมาก
       9.ใส่ใจน้ำหนักตัว
       
       การควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดโรคต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากความอ้วน
       
       10.พักผ่อนให้เพียงพอ
       
       รู้จักบริหารจัดการกับความวิตกกังวล และพักผ่อนอย่างเพียงพอ การพักผ่อนมีความสำคัญมากกับอวัยวะทุกส่วนของร่างกายคนเรา เพราะเมื่อได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ ร่างกายก็จะมีความสดชื่น พร้อมสำหรับการทำงาน สมองมีความปลอดโปร่ง ก็จะสามารถคิดตัดสินใจเรื่องต่างๆ ได้ดี
       
       11.ให้เวลาดีๆ กับตัวเอง
       

       ในยุคที่รายล้อมไปด้วยความกดดัน และความวุ่นวายต่างๆ เราควรหาช่วงเวลาดีๆ ในการหยุดพักความวุ่นวายจากภารกิจประจำวัน หยุดพักชีวิตจากเทคโนโลยี และลองมองกลับเข้าหาธรรมชาติรอบๆ ตัวกันดูบ้าง เช่น การนั่งพักผ่อนกับพื้นหญ้า เดินบนพื้นดินด้วยเท้าเปล่าในสถานที่อากาศถ่ายเทดี อย่างเช่น สวนสาธารณะยามเช้า หยุดคิดเรื่องของตัวเองและคนรอบข้าง เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนทั้งกายและใจอย่างแท้จริง